ประสบการ์ณแอบเลี้ยงแมวในหอพักนักเรียน

         หมิงเป็นนักเรียนหอพักในโรงเรียนประจำค่ะซึ่งแน่นอนอยู่แล้วหอพักก็ต้องมีกฏห้ามเลี้ยงสัตว์ใช่ไหมคะและแน่นอนหมิงเป็นเด็กที่เชื่อในกฏของโณงเรียนอย่างดี แต่ทำไม๊ไมโชคชะตามันทำให้หมิงต้องเลี้ยงแมวในหอพัก ถึงสองตัวเลยค่ะ และก็โป๊ะแตกถึงสองรอบด้วกันด้วยค่ะ (เอ้า) เรื่องราวจะเป็นยังไงจะเล่าให้ฟังค่ะ



        แมวตัวแรกที่หมิงเลี้ยงคือเพื่อนฝากมาค่ะ เขาไม่มีชื่อ เป็นแมวจรจัดแต่อยู่ในสภาพร่างกายขาดสารอาหารค่ะ เหมือนจะซึมๆและป่วยค่ะ แต่ไม่ค่อยแน่ใจในสาเหตุของการป่วยค่ะ ด้วยความเป็นเด็กหอพักที่่รักกฏและรักแมว เช่นกัน มันทำให้หมิงตัดสินใจ...ง่ายมาก ก็ต้องเลือกแมวสิคะ (เอ้ะ)



        เจ้าแมวตัวนี้ค่อนข้างเป็นแมวที่เชื่องและน่ารักค่ะ ดูเหมือนว่าที่เบื่ออาหารตอนแรกคิดว่าน่าจะมาจากการตรอมใจค่ะ รวมถึงน้องเขาเผลอไปกินสารกัมถันด้วยค่ะ เพราะช่วงนั้นรอบหอพักมักจะมีงูอยู่เยอะมากด้วยความที่พึ่งรับน้องมาและตอนนั้นครูก็มาตรวจหอพักพอดี (อ้าวเห้ย) โป๊ะแตกแบบยังไม่ได้เตรียมใจเลยค่ะ แต่ครูเขาฟังเหตุผลของหมิงค่ะ ทำให้สามารถเลี้ยงเขาได้ แบบนึกว่าจิตพิสัยจะปลิวซะแล้ว แหะๆ



       เงินหมิงไม่พอสำหรับการส่งน้องเขาไปรับรักษาค่ะ แต่หมิงก็พยายามที่สุดในส่วนที่จะทำได้ พยายามดูแลเขา อาบน้ำให้ ให้อาหาร ที่ได้รุ่นพี่ที่คลั่งรักแมวเลยซื้อเปย์มาเลยค่ะ จนในที่สุดอาการของน้องเขาก็ดีขึ้นภายใน 1 อาทิตย์ กินอาหารมากขึ้นค่ะ แถมยังทำตัวเป็นเจ้าของห้องซะด้วยค่ะ น่ารักจริงๆ



        สุดท้ายหมิงก็ไม่ได้ตั้งชื่อให้น้องเขาค่ะ ครูตอนมาตรวจหอก็เลยตั้งชื่อว่าแมวหมิง ก็คือตั้งชื่อให้รู้ว่าเป็นแมวใครเลยใช่ไหมคะ ตลกดีค่ะ ตอนนี้น้องเขาก็โดนรับเลี้ยงต่อจากอาจารย์ผู้คลั่งแมว น้องเขากลายเป็นแมวอ้วนประจำโรงเรียนของเราเรียบแล้วซะแล้วค่ะ น่ารักจริงๆ 



        แล้วเนื้อเรื่องก็ดำเนินมาถึงแมวตัวที่สองค่ะ ตอนนั้นเป็นตอนเที่ยงคืนกว่าๆ มีเพื่อนมาเคาะประตูห้องหมิงค่ะ พร้อมกับพาแมวตัวนึงมา อาการคือ ตื่นตระหนกค่ะ มีแผลลอกถลอกที่คอขนาดใหญ่มากค่ะ เลือดกำลังไหลชิบๆเลยค่ะ เหมือนเพื่อนเขามองหมิงเป็นหมอแมวหรือยังไงถึงมาเคาะประตูให้ช่วย แต่ด้วยความที่ดึกขนาดนี้โรงพยาบาลสัตว์ก็ไม่เปิดหรอกค่ะ หมิงเลยต้องประเมินอาการแผลของเขาและปรึกษาพ่อค่ะ พ่อของหมิงเขามีประสบการณ์เรื่องแมว เลยให้คำแนะนำว่า ทำแผลด้วยน้ำเกลือ และเบตาดีนที่หมิงมีอยู่ค่ะ น้องเขาให้ความร่วมมือดีในการทำแผลมากค่ะ หลังทำแผลเสร็จหมิงก็เอาผ้ามาพันคอเขาไว้แบบหลวมๆป้องกันเขาเกาแผลค่ะ ด้วยความที่ดึกมากทำให้หมิงนอนหลับไปค่ะ พร้อมกับน้องแแมว




        พอเช้าต่อมาเริ่มขึ้นหมิงก็เริ่มตั้งชื่อให้เขาว่าด้าแดงค่ะ มาจากหูกับหน้าเขาเหมือนแพนด้าแดงค่ะ และเริ่มทำแผลดูแลความสะอาดของแผลรวมถึงไปหาอาหารเช้าให้น้องเขาค่ะ เนื่องจากรอบนี้กระทันหันมากทำให้ไม่มีคนโดเนทเรื่องอาหารหมิงเลยต้องเดินหาซื้ออาหารจากสหกรณ์ในโรวเรียน หมิงเข้าใจค่ะว่าอาหารคนไม่ดีต่อแมวเลยเลือก อาหรที่มีโซเดียมต่ำที่สุดในสหกรณ์เท่าที่มีตอนนั้น (เนื่องจากมาตรการรโควิดของโรงเรียนเลยทำให้ชื่ออาหารและของใช้ข้างนอกไม่ได้ค่ะ) หมิงรีบกลับมาที่หอพักเพื่อให้น้องได้กินอาหารบ้าง ปรากฏว่าน้อวเขาทำการฉี่บนเบาะที่นอนหมิงเรียบร้อยข้าวต้มมัดค่ะ มันเลยทำให้หมิงคิดได้ว่า นี่เราลืมของสำคัญที่สุดได้ไง กระบะทรายแมว!! กลิ่นน้องติดทนนานมากค่ะ ตอนนั้นทำเอาปวดหัวซะแย่ แต่ไม่ได้โกธรเขาเลยค่ะ หมิงเลยทำการโทรไปปรึกษาที่โรงพยาบาลสัตว์ในจังหวัดเพื่อจะพาเขาไปรับรักษา แพงมากค่ะ เลยตัดสินจะซื้อกระบะทรายทราย โอ้ย แพงเหมือนกันค่ะ หมิงเลยตัดสินครั้งสุด้ทายค่ะ แค่ถามสิธีการดูแลแมวที่เป็นแผลอย่างถูกต้อง ขอรับข้อมูลจากเขา แล้ววางสายไปค่ะ การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในตอนทีไม่พร้อมมันลำบากมากเลยค่ะ



        หมิงเลยประยุกษ์ใช้กะละมังอันที่มีอยู่ พร้อมกับตักทราบแถวๆนั้นมาใส่กะละมัง ลำบากจริงๆค่ะ แต่เหมือนน้องเขาเป็นแมวเลี้ยงมาก่อน เลยเข้าใจง่ายว่ากระบะทรายอันนั้นคือที่อึของหนู หมิงก็รักษาความสะอาดแผลหาข้าวให้เขาดูแลเขากลายเป็นกิจวัตรประจำวันซะแล้วค่ะ พอผ่านไปได้ อาทิตย์กว่าๆอาการแผลของเขาดีขึ้นแบบเห็นได้ แถมความน่ารักไปของเจ้าแมวทำเอาให้ชีวิตหมิงมีสีสันขึ้นมาช่วงนึงเลยค่ะ เจ้าด้าแดงที่น่ารัก




        ไม่คิดว่าเวลาแค่แปปเดียวก็ทำให้หมิงผูกพันธ์กับเจ้าแมวหลงตัวนี้มาก จนเตรีมใจไม่ทันเลยค่ะพอรู้ว่ามีผู้ปกครองของเพื่อน ที่เขาพร้อมกว่า มีเงินเยอะกว่า จะรับเขาไปดูแลต่อ หมิงทำใจอยู่นานเลยค่ะ เพราะมันรักเขาไปแล้ว แต่เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีกว่าของน้องเขา หมิงก็ต้องเลือกให้เขามีความสุขอยู่แล้วค่ะ ฟีลลิ่งอารมร์เหมือนคนอกหักเลยค่ะช่วงนั้น เศร้าจริงๆนะคะ ไม่ได้อำเลย เจ้าแมวตัวนี้หมิงก็โดนครูหอพักจับได้อีกแล้วค่ะ แต่เขาก็เข้าใจเหมือนเดิม เขาใจกว้างมากเลยนะคะ และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่อยากจะเล่าค่ะ :)


ฝากความน่ารักไปหนึ่งกรุบค่ะ


แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้ในเรื่องเล่าต่อไปนะคะ







ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หมิงเป็นคนไม่เชื่อเรื่องผี แต่อยู่ห้องผีเฮี้ยนค่ะ!

การทัศนศึกษาของเด็ก GenZ ในช่วงโควิด