Community on Social Media For GenZ
เรื่องที่จะเล่าในวันนี้จะเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ ที่ชาวเด็ก GenZ และ ชาว GenY บางส่วนจะรู้จักกันดีคือสังคม Discord จากการใช้ดิสคอร์ดมาห้าปีกว่า เลยมีประสบการณ์สนุกๆให้ฟังเยอะแยะในคอมมูนิตี้เลยค่ะ
ช่วงแรกนี้คือประมาณห้าปีก่อนหมิงไม่เคยรู้จักคำว่าดิสคอร์ดนะคะ แต่เนื่องจากหมิงเป็นเด็กที่ชอบเล่นเกมส์ค่ะและเกมส์ส่วนที่เล่นเป็นเกมส์ แนว CO-OP แต่ไม่มีใครเล่นกับหมิงเลยค่ะ หมิงก็เลยเสิร์จอากู๋ ว่ามีใครบ้างไหมนะที่เหงาแบบนี้เช่นกัน จนมาเจอคำว่า Discord ค่ะ ดูแรกๆเหมือนเป็นกลุ่มสำหรับไว้คุยสำหรับคนคอเกมโดยเฉพาะ หมิงก็ได้เข้าร่วมเซิฟเวอร์ของคนๆนึงและเราก็ได้เป็นเพื่อนที่ต่อกันค่ะ หมายถึงห้าปีที่แล้วนะ
*CO-OP เป็นเกมส์ที่สามารถมีผู้เล่นหลายคน
หลังจากนั้นค่ะพอผ่านไปได้สักระยะ หมิงมีงานอดิเรกคือการร้องเพลงค่ะ ชอบร้องเพลงมากค่ะ แต่ไม่ได้ร้องเพราะนะคะ แค่ชอบร้องเพลง ก็ร้องเพลงตามในคาราโอเกะออนไลน์แอพลิเคชั่นใน playstore และหมิงก็ได้เริ่มติดตามนักร้องคนนึงจนได้ทำการทัก DM ไปหาเขาค่ะ
*DM หมายถึงการทักไปทางข้อความส่วนตัว
กลายเป็นว่าเขาก็ได้ชวนหมิงเข้าดิสคอร์ดและเปิดสังคมใหม่เลยค่ะ หมิงก็เริ่มรู้ว่า จริงๆแล้วดิสคอร์ดไม่ได้มีไว้สำหรับการเล่นเกมส์แต่ยังรวมไปถึง การร้องเพลง ด้วย ตอนนั้น มีชาวต่างซะส่วนใหญ่ที่อยู๋ในดิสของเขา และมักจะคุยกันเรื่องเพลงที่ชอบอย่างสนุกสนาน หมิงตอนแรกก็กล้าๆกลัว แต่พอเริ่มคุยมันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดค่ะการมีเพื่อนชาวต่างชาติและชอบอะไรเหมือนๆกัน สังคมออนไลน์ทำให้โลกของเราไร้พรมแดนขึ้นมาจริงๆ
แต่ความคึกคักที่มีอยู่ไม่นานก็ถูกปิดตัวลงเนื่องจากปัญหาภายในสมาชิกค่ะ หมิงเลยตัดสินใจสร้างคอมมูนิตี้ หรือ เซิฟเวอร์ของตัวเองขึ้นมาค่ะ กลุ่มเป้าหมายก็เพื่อหาคนชอบอะไรเหมือนๆกัน ตอนแรกๆก็มีแค่ห้าคนค่ะ เป็นเพื่อนจากโรงเรียนสมัยมัธยมต้นค่ะ (ตอนนี้หมิงอยู่ ปวช.) หมิงก็ทำเซิฟเวอร์ขึ้นมาโดยไม่คาดหวังอะไร แต่ก็เริ่มออกตามหาสมาชิกใหม่ๆค่ะ ที่ชอบอะไรเหมือนกันเพราะเพื่อนห้าคนนั้นเวลาว่างไม่ค่อยตรงกัน จึงเริ่มตามหาคน(อีกแล้ว) จนได้ไปเจอกับของเด็ดของจริงแบบเปิดโลกสังคมดิสคอร์ดที่สุดขั้นสุดจริงๆค่ะ
ดิสคอร์ดไม่ใช่แค่สังคมเล็กๆแต่มีขนาดใหญ่มาก..หมิงเจอกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ที่มีคนตอนนี้เกินหลักหมื่น และ ดิสนั้นมีบทบาทและสร้างรายได้จากผู้เข้าร่วมเซิร์ฟเวอร์โดยเป็นดิสคอร์ดที่ไม่ใช่แค่เซิร์ฟเวอร์แต่เป็นสถานที่ลักษณะคาเฟ่ มีกฏเกณฑ์ และ ผู้ดูแล ระบบต่างๆอีกมากมายที่หมิงไม่เคยรู้ว่า เห้ย มันทำงี้ได้ด้วยหรอวะ ตอนนั้นเป็นช่วงเปิดหูเปิดตาเลยค่ะ
ด้วยที่ลักษณะของคอมมูนิตี้ของเซิร์ฟเวอร์หมื่นกว่าคนค่อนข้างใหญ่ จึงมีบทบบาทเสมือนตำรวจเกิดขึ้นมาจริงๆเพื่อแก้ปัญหาในแต่ละวัน และเสน่ห์ของเซิร์ฟเวอร์ยังมีบริการเซอร์วิสลูกค้า เปรียบเหมือนเรามาเข้าคาเฟ่ และได้ร่วมพูดคุยกับเพื่อนๆใหม่ได้ทุกวันแบบไม่ซ้ำคนเลยค่ะ เราสามารถเลือกที่จะเข้าไปคุยกับใครก็ได้ โดยที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครและเราเป็นใคร ทำให้หมิงได้เพื่อนดีๆจากโลกออนไลน์มากเยอะแยะเลยค่ะจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังพูดคุยกันอยู่ ถ้าหากถามว่าเคยมีปัญหากับใครบ้างไหม อาจจะเป็นเรื่องของดวงนะคะ ที่หมิงมักจะเจอคนที่ปกติและนิสัยดีซะส่วนใหญ่ หมิงได้เพื่อนที่ชอบการร้องเพลง ชอบการเล่นเกมส์ ชอบการเรียนภาษา ชอบด้านไอที
ถ้าโลกเมต้าเวิร์สมาถึงจริงๆหมิงคิดว่าเหล่าคนกลุ่ม GenZ และ Y จะปรับตัวได้เร็วที่สุดนี่แหละค่ะ หมิงได้เจอคนคนนึงที่อายุมากที่สุดในดิสคอร์ดสาธาราณะนี้คือ อายุ 33 ปีค่ะและเป็นอาจารย์ของมหาลัยท่านนึง การแลกเปลี่ยนหมุนมองและความคิด ทำให้หมิงได้รับประสบการณ์ที่มากมายเลยค่ะ ไม่ว่าจะความรู้หรือ การเข้าหาคน การฝึกภาษา การได้รับฟัง การได้มีคนรับฟัง นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเลยค่ะ (แถมยังได้รู้เรื่องแปลกๆของแต่ละที่เยอะแยะเลยค่ะ) แต่ถึงยังไงหมิงก็ต้องเลือกคบคนให้ถูก ถ้าเราเข้ากับได้ดีหมิงมักจะดึงพวกเขามาร่วมในเซิร์ฟเวอร์ของหมิงด้วยค่ะ
ความสนุกสนานถึงแม้ไม่ได้เจอหน้ากัน หมิงเคยอกหักครั้งนึงในดิสคอร์ดด้วยนะคะ! ตลกจริงๆ บางทีได้ฟังเรื่องราวของคนอื่นก็เหมือนทำให้เรากล้าแสดงออกมากขึ้น หมิงมีคนช่วยคอยฝึกเวลาพรีเซนต์งาน ก็ให้พวกเพื่อนๆในดิสคอร์ดมาช่วยด้วยนั่นแหละค่ะ หมิงได้รับประโยชน์รวมถึงเพื่อนๆมากมายจาก Community Discord นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่อยากจะเล่าค่ะ!
ความคิดเห็น